หน้าเว็บ

ตะกรุด

ตะกรุดมหาเสน่ห์

ตะกรุด

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตะกรุดโปร่งฟ้า ตำราปู่ริมกายทิพย์ พระเวทย์สุรินทร์


ตะกรุดโปร่งฟ้า ตำราปู่ริมกายทิพย์ พระเวทย์สุรินทร์

ลงวิชาจารตะกรุดสูตรโปร่งฟ้า มหาลาภเต็มสูตร มีเพียงพระอาจารย์เวทย์สุรินทร์เท่านั้นที่สำเร็จวิชาครบทุกสูตร
ฟั่นด้วยเชือกสาวพรหมจารี หัวท้าย แล้วนำตะกรุดทุกดอกไปแช่ในน้ำมันพรายช้างโขลงที่ผสมกับน้ำมันว่านดอกทองผสมลงในน้ำมันว่าน108 ที่มี ผงดินอาถรรพ์ 7 กลางป่าช้า ผงดิน 7 ทุ่ง ผงโป่ง 7 ป่า -ผงดิน 7 ท่าน้ำ ผงดินจอมปลวก 7 รังร้าง ผงไคลโบสถ์ ไคลเสมา 7 วัด ผงตะเคียนฟ้า และ ผงตะเคียนทอง ว่านมหาเศรษฐี ว่านเรียกทรัพย์ ว่านดูดทรัพย์ เป็นต้นผงว่านช้างผสมโขลง ผงว่านจูงนาง ผงว่านสาวหลง

 ตะกรุดโปร่งฟ้า  เด่นและดีทางด้านโชคลาภเป็นที่สุด เข้าหาเจ้านาย ค้าขาย เจรจาธุรกิจ เมตตา อิทธิคุณ ดีในด้านเสี่ยงโชค (สะกดคนที่เล่นการพนันกับเรา สะกดเจ้าของบ่อน สะกดเจ้าที่ในบ่อน) ดีในด้านทำมาหากิน มีลูกค้ามาหาเอง เมตตาค้าขาย โชคลาภ หากินคล่อง ไม่ฝืดเคือง ไม่อดไม่อยาก อิทธิคุณของยันต์นี้เด่นทางโชคลาภเงินทอง เล่นการพนัน การเงินไม่ฝืดเคือง ส่งผลให้ผู้บูชาไม่อดไม่อยาก ทำมาหากินคล่อง มีโชคลาภเนืองๆ บูชาเป็นการเสริมดวงชะตา วาสนา บารมี ประดุจมีกำแพงแก้ว 7 ชั้น คุ้มครองไว้ ทั้งแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตา มหานิยมอยู่ในตัว มีตบะ เดชะ และ บารมี เพิ่มพูนมากขึ้นทุกวัน จะมีคนคอยชูชุบอุปถัมป์จนได้เป็นเจ้าคน เป็นใหญ่ เป็นโตเลื่อนขั้นหน้าที่ตำแหน่ง ศัตรูหมู่มาร ที่คิดร้ายจะพินาศสูญ พ้นอันตรายจากเทวดา มนุษย์ นาค และ ภูติผีร้าย ไปทางไหน ทิศไหน จะเป็นที่รักใคร่ นิยมของคนทางนั้น ทิศนั้น จะมีลาภ ผล และ เกียรติยศ ปรากฏเกรียงไกรไปทั่วทุกทิศ จะมีเทวดาพิทักษ์รักษา ค้ำคูณดวงชะตาผู้บูชา แต่ถ้านำไปวางไว้ที่หิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชาพระ จะแผ่อานุภาพค้ำดวงชะตา คนทั้งบ้าน ให้เจริญรุ่งเรือง

อาจารย์เวทย์สุรินทร์ ยอดเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดวิชาสายมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม มหาละลวย โชคลาภ ตำรับมนต์เขมร
สุดยอดพลังจิตอัศจรรย์ล้ำลึก ผู้เชี่ยวชาญพระเวทย์ปลุกเสกทั้งมนต์ดำและมนต์ขาว พระเวทย์สายสูง และสายล่าง ลูกศิษย์ที่มาหาอยากได้ของเสน่ห์ท่านลงเสน่ห์ให้ อยากได้ของคงกระพันหนังเหนียว แคล้วคลาด มหาอุด ท่านก็ลงให้ ลูกศิษย์อยากได้ของเมตตาค้าขายโชคลาภท่านก็เมตตาลงให้มีโชคลาภกันถ้วนหน้า จึงถือได้ว่าเป็นสุดยอดเกจิผู้ชำนาญในพระคาถา อักขระเลขยันต์  ครบทุกสูตรวิชา จนลูกศิษย์ขนามนามท่านว่าพระอาจารย์เวทย์สุรินทร์จอมขมังเวทย์  ท่านเมตตาต่อศิษย์ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้คนต่างดิ้นรนทำมาหากินจึงต้องการของเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ เสี่ยงดวงเสี่ยงโชคกันมาก ท่านเวทย์สุรินทร์ ก็เมตตาสงเคราะห์ลูกศิษย์ให้สมใจอยากได้สำเร็จทุกประการ   ท่านมีลูกศิษย์อยู่ทั่วทุกภาค ทุกระดับชนชั้น แม้แต่ชาวต่างประเทศ มาเลย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ยุโรป อเมริกา หญิงไทยที่ได้สามีชาวต่างชาติล้วนแต่ได้ของดีไปใช้จนได้ดิบได้ดีกันทุกคน  บางครั้งลูกศิษย์ที่มาเลย์เอาตะกรุดของท่านราคาแค่หลักร้อยไปให้เช่าที่มาเลย์ดอกละสี่ถึงห้าพันบาทท่านรู้เข้าท่านก็เมตตาไม่ว่าอะไรเขากลับเมตตาบอกว่าเขาต้องเลี้ยงครอบครัว ท่านเมตตาต่อทุกคนมากๆ  อาจารย์เวทย์สุรินทร์ แห่งป่าช้าคุ้มหนองแวงคู ขอนแก่น

จำวัดอยูเพียงรูปเดียวในช่วงออกพรรษาท่านจะเดินธุดงค์ไปพำนักที่ภูลังกา

ภูโน หรือภูพานคำ เป็นประจำทุกปีบางปีก็ข้ามไปฝั่งเขมรเพื่อหาว่านยาหามวลสารตามแต่ที่ท่านจะจัดสร้างเครื่องรางขึ้นมานั่นเอง การศึกษาไสยเวทย์ของท่านเริ่มจากตอนที่ท่านบวชเป็นสามเณรที่วัดกลาง แล้วตามพระอาจารย์ของท่านเป็นชาวสุรินทร์ คือหลวงพ่อโฮม ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อริมรัตนมุนี สมัยนั้นหลวงพ่อริมเป็นยอดพระเกจิเล่นวิชาไสยศาสตร์ หลวงพ่อโฮมซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อริมได้พาสามเณรเวทย์มาอุปัฏฐากหลวงพ่อริมในช่วงออกพรรษาจะมารับใช้ท่านทำอยู่อย่างนี้ถึง5ปีจนหลวงพ่อโฮมสึกไปมีเมีย อาจารย์เวทย์ก็ยังรับใช้และขอศึกษาวิชากับท่านทั้งการฝึกสมาธิ เขียนยันต์ และบทพระคาถามากมายที่สำคัญท่านกำชับไว้ว่าอย่าลืมครู และหมั่นภาวนาหลังจากที่ท่านอุปสมบทแล้วได้ธุดงค์เพื่อไปขอศึกษาวิชากับพระเกจิอาจารย์สายเขมรมากมาย ทั้งพระและฆราวาส และเกจิที่มีชื่อเสียงหนึ่งในนั้นคือ อาจารย์เปล่ง บุญยืน และเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนมนต์ดำสายเขมร มนต์ดำนี้มีทั้งวิชาทำให้รัก ผูกหุ่น ทำยาเสน่ห์ ทำน้ำมันพราย สร้างหุ่นพยนต์ เรียกผี เชิญดวงวิญญาณเชิญเทพ วิชาทำร้ายคนอื่นเช่นเสกหนังควาย เสกตะปู ยาสั่ง ใช้ผีทำคุณไสย์ ส่วนมากเป็นอาจารย์ฆราวาสท่านเรียนเอาหมดแต่ถือสัจจะไม่ใช้มนต์ดำทำร้ายใคร  หลังจากกลับมาจากเขมร ท่านได้ไปขอเรียนวิชาดวงธรรม ธรรมบรรลุ จากปู่ธรรมฟั่นแห่งบ้านนาดอกไม้ เลย จนบรรลุธรรมทั้งห้าขั้น และเดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ ในยุคที่ชื่อเสียงหลวงพ่อสมควรกำลังโด่งดังมาก ท่านเป็นชาวเวียดนาม ท่านเรียนวิชาสายเขมรเอาไว้มากมาย พระอาจารย์เวทย์สุรินทร์จึงขอเรียนเอาไว้หมด อาจารย์เวทย์สุรินทร์จึงเดินทางมาพำนักที่ป่าช้าคุ้มหนองแวงคู ในช่วงเข้าพรรษา ส่วนออกพรรษาจะธุดงคปลีกวิเวกตามวิชาธรรมบรรลุของท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น